เป๊ปซี่โค เดินหน้าสานพลังบวก pep+เป็นมิตรต่อผืนดิน และ คุณภาพชีวิตเกษตรกร

เป๊ปซี่โค เดินหน้าสานพลังบวก pep+

ผลักดันการดำเนินการเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตเกษตรกร ด้วยเทคโนโลยี และโครงการความร่วมมืออย่างรอบด้าน

เป๊ปซี่โค ได้ประกาศกลยุทธ์ PepsiCo Positive (pep+) ตั้งแต่ปี 2564 เพื่อปรับโฉมธุรกิจในทุกขั้นตอน โดยสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลก ด้วยการนำเรื่องความยั่งยืนและการพัฒนาประชากรโลก เข้ามาเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจและคุณค่าให้กับสังคม

นายคอลิน แมทธิวส์  ผู้อำนวยกาารอาวุโสฝ่ายซัพพลายเชน  บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด

กลยุทธ์ pep+ ถูกผนวกเข้ามาในทุกส่วนของธุรกิจ โดยในรายงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, and Governance หรือ ESG) ปี 2564 ได้กล่าวถึงรายละเอียดเรื่องความก้าวหน้าและแสดงตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง จาก 3 เสาหลักภายใต้กลยุทธ์ ซึ่งประกอบด้วย การเกษตรเชิงบวก (Positive Agriculture) ห่วงโซ่คุณค่าเชิงบวก (Positive Value Chain) และทางเลือกเชิงบวก (Positive Choices)

สนับสนุนเกษตรแบบฟื้นฟูและเกษตรอัจฉริยะ

หนึ่งในกลยุทธ์ PepsiCo Positive (pep+) ของเป๊ปซี่โค มีเป้าหมายและแนวปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อผืนดิน เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมด้านการเกษตรบนที่ดินอันเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของบริษัททั้งหมด 7 ล้านเอเคอร์ทั่วโลก จัดหาพืชผลและวัตถุดิบหลักอย่างยั่งยืน และปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรจำนวน 250,000 คน ในห่วงโซ่อุปทานทางการเกษตรของบริษัท โดยการนำระบบเกษตรแบบฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) และเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) เข้ามาช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและสภาวะทางชีวภาพของดิน ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิต โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนศักยภาพให้กับเกษตรกร

ที่สำคัญเป๊ปซี่โค ยังได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การบริหารการจัดการน้ำและแปลงอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การใช้ระบบน้ำหยด (Drip Irrigation system) การใช้เทคโนโลยีต่างๆ อาทิ โซล่าเซลส์ การตรวจวิเคราะห์คุณภาพของดิน และความเป็นไปได้ในการเกิดโรคพืชโดยการใช้โดรน เข้ามาใช้ในแปลงปลูกมันฝรั่งของเกษตรกรที่ทำงานร่วมกับบริษัท ซึ่งก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรได้จาก 1.5 ตันต่อไร่ เป็น 4 ตันต่อไร่ ขณะที่เกษตรกรสามารถลดต้นทุนทางการผลิตได้ รวมถึงสามารถลดน้ำที่เหลือทิ้งสูญเปล่าได้เช่นเดียวกัน

นายบุญธรรม พิรักษ์ธรรม อายุ 60 ปี  เกษตรกรผู้ทำไร่มันฝรั่งมานาน 9 ปี  บนพื้นที่ 22 ไร่

โครงการ “Journey to Zero Waste” เก็บกลับขยะพลาสติกยั่งยืน

เป๊ปซี่โค ประเทศไทย มุ่งมั่นในการจัดการปัญหาขยะพลาสติกอ่อนหลายชั้น หรือ MLP (Multilayer plastic) เพื่อสร้างความตระหนักถึงปัญหา ขยายการเรียนรู้เรื่องการจัดการและแยกขยะร่วมกับชุมชนต่างๆ รวมถึงการเก็บกลับขยะบรรจุภัณฑ์ MLP หลังการบริโภค เพื่อนำไปไปแปรรูปและเพิ่มมูลค่า โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา เป๊ปซี่โคได้นำขยะ MLP ที่ได้ไปแปรรูปเป็นไม้เทียม เพื่อเป็นเก้าอี้ และโต๊ะนักเรียน ส่งมอบให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เทศบาลตำบลทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน เป๊ปซี่โค ประเทศไทย มีเป้าหมายขยายโครงการฯ และความร่วมมือไปยังพันธมิตรและชุมชนอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสานต่อภารกิจภายใต้กลยุทธ์ pep+ และกำจัดขยะประเภทบรรจุภัณฑ์อ่อนหลายชั้น (MLP) อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

เสริมสร้างศักยภาพสตรี (Woman empowerment)

ไม่เพียงแต่การดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนของภาคสังคม เป๊ปซี่โคให้ความสำคัญกับเรื่องความหลากหลายและความเท่าเทียม เป๊ปซี่โคมุ่งมั่นที่จะผลักดันเรื่องความหลากหลายในที่ทำงาน โดยกำหนดเป้าหมายว่า ภายในปี 2568 พนักงานของเป๊ปซี่โคระดับผู้จัดการขึ้นไป จะต้องมีสัดส่วนของผู้หญิงและผู้ชาย อยู่ที่ 50:50 เป๊ปซี่โค เชื่อมั่นในความแตกต่าง และความหลากหลาย ความหลากหลายจะนำมาซึ่งนวัตกรรม และนวัตกรรมจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีกว่า

Colin Matthews ผู้อำนวยการอาวุโสด้าน Supply Chain ของ PepsiCo Indochina Food ย้ำว่า เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ถือเป็นบริษัทด้านการเกษตรที่มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะทำให้การทำไร่มันฝรั่งในประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันและประสบความสำเร็จของเกษตรกรไทยเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จในระยะยาวของธุรกิจเป๊ปซี่โค ประเทศไทย ในปัจจุบัน การทำการเกษตรกำลังเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม เป๊ปซี่โคมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรร่วมกับเกษตรกรไทยเพื่อให้มั่นใจว่าผลผลิตของฟาร์มเพิ่มขึ้น มีความยั่งยืน และเกษตรกรและชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเชื่อมั่นในความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกร ในการสร้างความก้าวหน้าให้กับการเกษตรของประเทศไทย