สศก.เคาะผลพยากรณ์รอบแรก ไม้ผลภาคตะวันออกคาด มีปริมาณ 1.163 ล้านตัน

 

สศก.เคาะผลพยากรณ์รอบแรก ไม้ผลภาคตะวันออกคาด มีปริมาณ 1.163 ล้านตัน

 โดยทุเรียน ผลผลิตเพิ่มขึ้นเพียงชนิดเดียว ขณะที่ มังคุด เงาะ ลองกอง คาดว่าผลผลิตลดลง

นายวินิต อธิสุข รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลพยากรณ์และสถานการณ์การผลิตไม้ผลภาคตะวันออก ปี 2566 พื้นที่จังหวัดจันทบุรี ตราด และระยอง ในผลไม้ 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง จากการประชุมคณะทำงานพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกส์ ครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 พบว่า

เนื้อที่ให้ผลของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด พื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก มีจำนวน  659,501 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีจำนวน  651,604 ไร่  (เพิ่มขึ้น 7,897 ไร่ หรือร้อยละ 1.21) โดยทุเรียน มีเนื้อที่ให้ผล 351,546 ไร่  เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.85 โดยเป็นสินค้าเดียวที่มีเนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้นจากแรงจูงใจด้านราคา ทำให้เกษตรกรขยายเนื้อที่ปลูกทุเรียนอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่ไม้ผลอื่นๆ เนื้อที่ให้ผลลดลง ได้แก่ มังคุด มีเนื้อที่ให้ผล 180,333 ไร่ ลดลงร้อยละ 2.18 เงาะ 98,292 ไร่ ลดลงร้อยละ 1.95 และลองกอง  29,330 ไร่ ลดลงร้อยละ 7.59

 

ผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล ของไม้ผลทั้ง 4 ชนิดลดลง โดยทุเรียน ผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล 2,152 กก./ไร่ ลดลงร้อยละ 1.47  มังคุด 1,041 กก./ไร่ ลดลงร้อยละ 13.47 เงาะ 2,057 กก./ไร่ ลดลงร้อยละ 4.72  และลองกอง 587 กก./ไร่ ลดลงร้อยละ 1.51 ทั้งนี้ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการออกดอกติดผล โดยมีฝนตกอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงปัจจุบัน ทำให้ไม้ผลบางส่วนแตกใบอ่อนแทนการออกดอก ประกอบกับเกษตรกรทำการตัดแต่งต้นที่อายุมาก ลดจำนวนกิ่งที่ให้ผลได้ออกเพื่อให้ผลผลิตมีขนาดใหญ่ขึ้น และเกษตรกรบางส่วนลดการดูแลลองกอง เงาะ และมังคุดลง เพื่อไปให้การดูแลทุเรียน ซึ่งให้ผลตอบแทนดีกว่า

จากปัจจัยข้างต้น ส่งผลให้ภาพรวมผลผลิตไม้ผลตะวันออก ปี 2566 คาดว่ามีปริมาณ 1,163,618 ตัน ลดลงจากปี 2565 ที่มีจำนวน 1,189,522 ตัน (ลดลง 25,904 ตัน หรือ ร้อยละ 2.18)  ซึ่งเป็นการลดลงของปริมาณผลผลิตมังคุด เงาะ และลองกอง ยกเว้นทุเรียนจะมีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยผลผลิตของทุเรียนมีปริมาณ756,465 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.30  มังคุด มีปริมาณ 187,729 ตัน ลดลงร้อยละ 15.38 เงาะ มีปริมาณ 202,204 ตัน ลดลงร้อยละ 6.57 และลองกอง มีปริมาณ 17,220 ตัน ลดลงร้อยละ 9.01

สำหรับการกระจายผลผลิตออกสู่ตลาด คาดว่า ผลผลิตทั้ง 4 ชนิดจะเริ่มออกตลาดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ – เดือนตุลาคม 2566 ซึ่งผลผลิตของทุเรียนจะออกสู่ตลาดมากและเร็วขึ้นจากปีที่แล้ว จากออกสู่ตลาดมากในเดือนพฤษภาคม มาเป็นออกตลาดมากในเดือนเมษายน 2566 โดยผลผลิตออกตลาดประมาณ 306,064 ตัน หรือร้อยละ 40.47 ของผลผลิต มังคุด ออกมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม 2566 มีผลผลิตประมาณ 92,975 ตัน หรือร้อยละ 49.54 ของผลผลิต  ส่วน เงาะ  ผลผลิตออกมากในเดือนพฤษภาคม 2566 เช่นกัน ที่ปริมาณ 88,417 ตัน หรือร้อยละ 43.74 ของผลผลิต              ขณะที่ลองกอง จะออกมากที่สุดในเดือนกรกฎาคม 2566 ประมาณ 6,387 ตัน หรือร้อยละ 37.09 ของผลิตทั้งหมดใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก

ทั้งนี้ สศก. จะได้ติดตามสถานการณ์การผลิตอย่างต่อเนื่องต่อไป เนื่องจากผลไม้มีความอ่อนไหวต่อสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ปริมาณการผลิตไม้ผลนำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้  (Fruit Board) และให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับกระทรวง กรม และจังหวัดได้นำไปใช้ประโยชน์ในการเตรียมมาตรการนโยบายในการบริหารจัดการผลไม้ต่อไป สำหรับท่านที่สนใจขอรับบริการข้อมูลด้านสนเทศการเกษตร อาทิ ข้อมูลพยากรณ์ ข้อมูลการผลิตการตลาดและราคาคาสินค้าเกษตรที่สำคัญ สามารถติดต่อขอรับบริการได้ที่ ส่วนปฏิบัติการข้อมูลการเกษตร ศูนย์สารสนเทศการเกษตร โทร. 0 2561 2870 ในวันและเวลาราชการ หรือ e mail : [email protected]