สยามคูโบต้า จัดแคมป์ KUBOTA iGEN พาเยาวชน สร้างสรรค์ไอเดีย ออกแบบโมเดลธุรกิจการเกษตร ต่อยอดว่าที่ Smart Farmer รุ่นใหม่

สยามคูโบต้า จัดแคมป์ KUBOTA iGEN พาเยาวชน สร้างสรรค์ไอเดีย
ออกแบบโมเดลธุรกิจการเกษตร ต่อยอดว่าที่ Smart Farmer รุ่นใหม่

สยามคูโบต้า จัดกิจกรรม KUBOTA iGEN แคมป์เกษตรดิจิทัลสำหรับลูกหลานครอบครัวสยามคูโบต้า พาลงพื้นที่ คูโบต้าฟาร์ม สัมผัสประสบการณ์จริง พร้อมเปิดโลกการเรียนรู้การทำธุรกิจการเกษตรผ่านเครื่องมือ ออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ยังเปิดเวทีให้น้องๆ นำเสนอแผนธุรกิจ เตรียมพร้อมสานต่อธุรกิจการเกษตรและก้าวเข้าสู่การเป็น Smart Farmer

นายพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “KUBOTA iGEN แคมป์เกษตรดิจิทัล เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นสำหรับลูกหลานครอบครัวสยามคูโบต้า โดยมีจุดประสงค์สำคัญเพื่อสนับสนุนเกษตรกรวัยไอเจนที่มีศักยภาพในการเป็นเกษตรกรยุคใหม่ ให้เรียนรู้และสามารถประยุกต์ใช้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และสามารถต่อยอดการทำเกษตรกรรมจากครอบครัวได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกหลานเกษตรกรในการทำการเกษตรและเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นใหม่ในการพัฒนาการทำการเกษตรในชุมชนของตนเอง”

สำหรับ KUBOTA iGEN ปี 2 นี้ จะเป็นการพาน้องๆ 30 คน ไปพบกับแคมป์เกษตรสุดล้ำและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตลอด 4 วัน 3 คืน โดยจะได้เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์การทำเกษตรสมัยใหม่ทั้งในแง่ทฤษฎีและการปฏิบัติจริง ณ คูโบต้าฟาร์ม ฟาร์มสร้างประสบการณ์เกษตรสมัยใหม่ของคูโบต้าในภูมิภาคอาเซียน และเปิดโลกการเรียนรู้การทำธุรกิจการเกษตรผ่านเครื่องมือออนไลน์และโซเชียลมีเดีย พร้อมพบแขกรับเชิญพิเศษที่มาบอกเล่าวิธีสร้างการขายผ่านแพลตฟอร์ม TIK TOK และผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านการเกษตร ได้แก่ คุณตี๋โอ วุฒิพงษ์ ลิขิตชีวัน Online Content Creator และเจ้าของเพจ “อาตี๋รีวิว” คุณโอม อัครเดช ม่วงไม้ เจ้าของและผู้ก่อตั้งธรรมดาการ์เด้น และ คุณแนน วราภรณ์ มงคลแพทย์ ทายาทกิจการบ้านหมากม่วง อีกทั้งยังมีการนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจการเกษตร เช่น เรื่องการเข้าถึงเครื่องจักรกลการเกษตรและนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ การใช้ระบบเช่าเครื่องจักรกลการเกษตรบนดิจิทัลแพลตฟอร์มจับคู่ผู้ให้บริการสำหรับเกษตรกรรายย่อย การสร้างรายได้เพิ่มจากเครื่องจักรกลการเกษตร และการปลูกพืชที่สามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปี เป็นต้น

นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้น้องๆ จับกลุ่มลองเขียนแผนธุรกิจจากการนำองค์ความรู้ทั้งหมดที่ได้เรียนรู้ตลอด 4 วัน โดยแผนจะต้องประกอบไปด้วย 4 แนวคิดหลัก ได้แก่ Agri Business : แนวคิดการเป็นเจ้าของกิจการ, Smart Farm : แนวคิดการจัดการพื้นที่ทางเกษตรกรรมโดยใช้เทคโนโลยี, Innovation : การฝึกฝนใช้นวัตกรรมทางความคิดเชิงสร้างสรรค์ผสมผสานนวัตกรรมทางเครื่องมือ และ Social Media : การตลาดและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย แล้วนำเสนอให้แก่ผู้บริหารจากสยามคูโบต้าพร้อมรับฟังคำแนะนำ ซึ่งน้องๆ จะได้เรียนรู้ทั้งในเรื่องการสร้างคอนเนคชั่น การทำงานเป็นทีม และการสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันทั้งในระยะเวลาที่ร่วมกิจกรรมและหลังจบกิจกรรม โดยเราเล็งเห็นว่าทุกอย่างที่น้องจะได้รับในกิจกรรมจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ ทั้งในปัจจุบัน และอนาคตต่อไป

ด้าน นายสิริโชค ใสโว นักศึกษาปวช. ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีขอนแก่น เยาวชนผู้เข้าร่วมกิจกรรม เล่าถึงแผนธุรกิจที่ได้ออกแบบว่า “ผมออกแบบฟาร์มผลไม้ที่สามารถให้ลูกค้ามีประสบการณ์ร่วมจากการไปเก็บผลผลิตเอง โดยมีนวัตกรรมเครื่องวัดความหวาน ความเปรี้ยว ความสุกของผลไม้ ที่ไม่ทำร้ายเนื้อของผลไม้ ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกรสชาติไม่ว่าใครจะชอบรสชาติไหน นอกจากนี้ตระกร้าที่ไว้เก็บผลไม้เป็นการรับซื้อมาจากชุมชนรอบข้างเพื่อเป็นการสนับสนุนรายได้ให้แก่ชุมชน ที่บ้านผมมีปลูกไม้ผลอยู่แล้ว ผมมองว่าถ้าสานต่อเป็นเกษตรเชิงท่องเที่ยวคาเฟ่พืชสวนน่าจะดี ยิ่งคนมาเยอะเราก็สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนรอบข้างด้วย และมองเห็นการสร้างมูลค่าจากผลผลิตโดยการนำนวัตกรรมเข้ามาประยุกต์ใช้”

และ นางสาวจิตราภรณ์ โดยอาษา มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนนครนายกวิทยาคม เยาวชนผู้ร่วมในกิจกรรมเล่าว่า “น้องในกลุ่มที่ทำฟาร์มแตงโมมีปัญหาผลผลิตเสียหายถึงร้อยละ10 เกิดจากปัญหาศัตรูพืช และคนในชุมชนส่วนใหญ่ยังทำการเกษตรแบบใช้สารเคมีค่อนข้างมาก กลุ่มเลยช่วยกันออกแบบแผนธุรกิจเป็นฟาร์มแตงโมที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ อยากให้คนในชุมชนเข้าถึงองค์ความรู้การใช้เทคโนโลยีในการเกษตรเพราะในอนาคตเราก็เข้าสู่ยุคดิจิทัลและการเรียนรู้การทำเกษตรที่ถูกต้อง ปลอดภัย และคุ้มทุน ภายในฟาร์มมีนวัตกรรมการใช้เครื่องดักจับและจำแนกชนิดแมลง โดยใช้สารฟีโรโมน ทำให้วางแผนจัดการแมลงได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการใช้สารเคมีอย่างเหมาะสม รวมถึงมีการใช้ระบบเกษตรอัจฉริยะควบคุมการเพาะปลูก ควบคุมความชื้น และสภาพอากาศ เช่น หากความชื้นต่ำระบบจะสั่งการรดน้ำหรือการให้ปุ๋ยเป็นเวลา ทำให้ช่วยลดแรงงาน ลดระยะเวลาในการทำงานมากขึ้น และในส่วนของผลผลิตเราก็จะนำไปแปรรูปทำเป็นเครื่องดื่มสกัดหรือผลไม้อบแห้ง ขายผ่านพวกแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น”

“ผมมองว่าอาชีพเกษตรกรไม่ได้เป็นอาชีพที่ด้อยกว่าอาชีพอื่นเลย ผมคิดว่าเป็นหนึ่งในอาชีพที่ช่วยพัฒนาประเทศและพัฒนาโลกเลยด้วยซ้ำ แต่แค่ที่ทำมาเราอาจจะไม่รู้การทำอย่างถูกวิธี มันเลยได้ผลไม่เป็นไปตามที่หวัง ปัจจุบันมีนวัตกรรมมากมายที่เข้ามาช่วยการทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ พอผมได้มาค่ายนี้ผมได้เห็นภาพชัดขึ้น มองเห็นโอกาสในการทำเกษตรและได้ออกแบบแผนธุรกิจการเกษตรโดยวางแผนทำเป็นเกษตรเชิงท่องเที่ยวเป็นฟาร์มผสมผสาน ออกแบบพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และมีการใช้นวัตกรรมรถปลูกผักทดแทนแรงงาน โดยพืชหลักในฟาร์มคือพวกพืชสมุนไพรและพืชกระท่อม เนื่องจากมองเห็นแนวโน้มการบริโภคสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรในไทยตอนนี้เติบโตสูงขึ้น และอาจจะเป็นพืชเศรษฐกิจสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศได้ในอนาคต รวมถึงพึ่งปลดล็อกมาได้ไม่นาน มีสรรพคุณดีๆ หลายอย่าง โดยวางแผนทำการตลาดไปสู่กลุ่มคนรักสุขภาพและประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการใช้พืชกระท่อมอย่างถูกวิธี” นายธนภูมิ ธีระเดชพิทักษ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อีกหนึ่งในผู้ร่วมกิจกรรมกล่าว

“ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงแนวคิดและศักยภาพอนาคตของเกษตรกรไทย อย่างไรก็ตามสยามคูโบต้าพร้อมที่จะให้การสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพของเยาวชนรุ่นใหม่โดยเฉพาะลูกหลานครอบครัวสยามคูโบต้าที่ต้องการสานต่ออาชีพเกษตรกรและต่อยอดการเป็น Smart Farmer และเชื่อว่าเยาวชนเหล่านี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนและฟันเฟืองที่สำคัญในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการเกษตรของไทยต่อไปในอนาคต” นายพิษณุ กล่าวสรุป